เมื่อมี “การตั้งครรภ์” ห้ามกินยาอื่นนอกจากยาหมอสั่ง
หากมี "การตั้งครรภ์" ห้ามกินยาอื่นใดนอกจากยาที่คุณหมอสั่งเท่านั้น
คุณพ่อคุณแม่ทุกคนย่อมอยากให้ลูกน้อยที่เกิดมามีอาการครบ 32 และไม่มีความพิการแต่กำเนิด จึงควรต้องระลึกเสมอว่ายาบางชนิดที่คุณแม่รับประทานเป็นประจำ หรือแม้แต่ยาแต้มสิวเพียงเล็กน้อยนั้นอาจมีผลต่อการเจริญเติบโตหรือสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์ได้ เพราะ ฤทธิ์ยาบางชนิดสามารถผ่านทางผิวหนังหรือสายรกที่อยู่ในท้องไปสู่ทารกในครรภ์ได้ และยาบางชนิดก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้
นอกจากนี้ควรดูแลสิ่งแวดล้อมทั้งที่บ้าน และที่ทำงาน เช่น หลีกเลี่ยงจาก รังสี สารเคมี และโลหะหนัก เป็นต้น เนื่องจากสารพิษสามารถเข้าสู่ร่างกายโดยผ่านทางผิวหนัง ทางลมหายใจ การรับประทาน หรือทางน้ำดื่ม ทั้งนี้คุณแม่ที่มีอาชีพบางอาชีพ เช่น โรงงานเกษตรกร จะเสี่ยงต่อการได้รับสารพิษ
ดังนั้นคุณแม่ที่มีการตั้งครรภ์ ก่อนคลอดนั้นจะต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษด้วยเช่นกัน
ฉะนั้นก่อนจะซื้อยาหรือใช้ยาทุกชนิดควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ ตัวอย่างที่มักใช้เป็นประจำและผลของยาที่มีต่อตัวลูกน้อยในครรภ์ได้แก่
- ยาปฏิชีวนะและยาแก้อักเสบ เช่น เตตราซันคลีน ไม่ควรกินเด็ดขาด เพราะมีผลกระทบต่อกระดูกและฟันของลูก ทำให้ลูกที่เกิดมามีฟันเหลือง และอาจมีผลต่อการได้ยินของลูกด้วย
- กลุ่มยาซัลฟา ถ้าใช้ก่อนคลอด ลูกอาจออกมาตัวเหลือง
- ยาจำพวก ยาสเตรปโตมัยซิน ที่มีผลอาจทำให้ลูกหูตึงหรือหูหนวก
- กลุ่มยาคลอแรม อาจทำให้เด็กที่เกิดมาตัวเขียว ซีด ท้องป่อง
- กลุ่มยาจำพวกคลอโรควินและควินิน ทำให้แท้งได้
- ยาเพนนิซิซิลิน และยาแอมพิซิลิน เป็นยาที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ยกเว้นคนที่แพ้เท่านั้น
- ยาแก้ปวดลดไข้ เช่น ยาแอสไพริน ไม่ควรใช้แอสไพริน 3 เดือนก่อนคลอด
เนื่องจากจะทำให้เกิดชะลอการคลอดและมีปัญหา เลือดออกมากหลังคลอด นอกจากนี้ยังแนะนำไม่ให้รับประทานระหว่างการให้นมบุตร เนื่องจากสามารถผ่านทางน้ำนมได้และอาจจะเกิด Reye’s syndrome เมื่อเด็กเกิดติดเชื่อไวรัส ถ้าใช้มากอาจทำให้เลือดออกไม่หยุด หรือคลอดก่อนกำหนด แต่ปัจจุบันไม่ใช้ยานี้กันแล้ว
- ยาคลอเฟนิรามีน ซึ่งเป็นยาแก้คัน แก้แพ้ แต่ถ้าใช้ติดต่อกันนานๆ ลูกที่เกิดมาอาจจะมีเลือดไหลผิดปกติ
- ยานอนหลับและยากล่อมประสาท ยานี้มีชื่อเรียกกันหลายหลายอย่าง เป็นยาทางจิตเวช ถ้าใช้ติดๆกันนานๆ จะมีผลต่อทารก ทำให้พิการ ลูกอาจจะหายใจไม่ดี ชักกระดุก
- ยากันชัก ทำให้ลูกมีใบหน้าผิดปกติหรือเลือกออกในตัวเด็กจะแข็งตัวช้า
- ยารักษาเบาหวาน ถ้าเป็นยาเม็ดอาจทำให้เด็กพิการได้ แต่ ถ้าเป็นชนิดฉีดอินซูลินก็ใช้ได้ปลอดภัย
- ยาแก้ไอ และยาระงับอาการไอ ชนิดที่มีไอโอดีนสูง ลูกอาจผิดปกติทางสมองและคอพอก หรือบางชนิด มักจะผสมยาลดน้ำมูกจำพวก อิฟีดริน (Ephedrin) มีคุณสมบัติช่วยให้จมูกโล่ง แต่อาจทำให้เซลล์สมองเจริญไม่ดี ถ้ากินมากเกินไปอาจทำให้เลือดไปเลี้ยงทารกไม่พอ
- ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร ชนิดที่มีส่วนผสมของแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ นอกจากจะทำให้คุณแม่ท้องเสียแล้วยังเป็นอันตรายต่อเด็กในท้องอีกด้วย
- ยากรักษาสิว เช่น Acne medication isotretinoin (ACCUTANE, RETIN - A).
- สุรา และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องดื่มหลายประเภท เช่น Beer, wine, wine coolers เมื่อคุณแม่ดื่มแอลกอฮอล์ ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดจะสูงขึ้นและไหลไปสู่ทารกในครรภ์ ซึ่งจะทำให้เกิดการแท้ง ปัญญาอ่อน น้ำหนักน้อย
- บุหรี่ การสูบบุหรี่ไม่ว่าจะก่อนการตั้งครรภ์ ขณะตั้งครรภ์หรือหลังคลอดจะมีผลเสียต่อเด็กอย่างยิ่ง เพราะสารนิโคตินและทาร์คาร์บอนโมนอกไซด์จากบุหรี่ ทำให้การพัฒนาของเซลล์สมองผิดปกติ ทำให้เลือกไปเลี้ยงทารกน้อยลง หรือทำให้ทารกเกิดมาตัวเล็ก ผิวพรรณเหี่ยวย่นอีกด้วย
- ยาทากันแมลง คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรจะใช้วิธีอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงยุงและแมลง เช่น การใส่เสื้อแขนยาวหรือกางเกงขายาว ไม่ควรไปอยู่ในช่วงที่ยุงเยอะ หรือสถานที่มียุงมาก
เช็คอาการคนท้อง >> คลิ๊ก !!
อ่านเรื่องเกี่ยวกับการตั้งครรภ์เพิ่มเติม >> คลิ๊ก !!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น