เอมมี่ รับ โมหน้าใหม่ เสริมจมูก ทรงโด่งพุ่ง ไฉไลกว่าเดิม

เอมมี่ รับ โมหน้าใหม่ เสริมจมูก ทรงโด่งพุ่ง ไฉไลกว่าเดิม

ในปัจจุบันการทำ ศัลยกรรมความงาม กลายเป็นเรื่องยอดฮิต มีสาวๆ หลายคนยอมทำเพื่อเพิ่มความสวยให้กับตัวเอง อย่าง การเสริมจมูก ถือว่าเป็นศัลยกรรมอันดับ 1 ที่ยังครองแชมป์มานาน มีคนทำและกำลังตัดสินอยากจะทำมากขึ้นเรื่อยๆ คลินิกจึงขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว บางที่ทำแล้วสวยได้มาตราฐาน บางที่ทำออกมาแล้วพลาดจนต้องแก้ซ้ำแล้วซ้ำอีก หรือบางคนถึงกับจมูกพังและใช้เวลานานมากกว่าจะกลับหายและกลับไปสวยได้อีกครั้ง

ล่าสุด เอมมี่ อุบลวรรณ ดาราสาวที่ไม่ว่าจะทำศัลยกรรมอะไรก็เป็นที่พูดถึง ตั้งแต่อัพไซส์หน้าอกขนาด 700cc ความใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาเธอขึ้นเขียงอัพดั้งใหม่โด่งพุ่งกว่าเดิมอีกครั้ง เพื่อเพิ่มมิติให้ใบหน้าดูสวยหวานแบบสาวเกาหลี

วันนี้ Sanook! Women เรามีสัมภาษณ์พิเศษ นพ.เศรษฐวินท์ สัจจะพรเทพ (หมอบิ๊ก) จาก วานิสสา คลินิก ผู้เนรมิตความสวยให้ เอมมี่ อมลวรรณ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการศัลยกรรมจมูกที่สาวๆ หลายคนอยากรู้

จุดเริ่มต้นของการศัลยกรรมจมูก เอมมี่ อมลวรรณ 

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า จมูกของคุณเอมมี่ไม่ได้มีปัญหาจมูกทะลุ หรือติดเชื้ออะไรเลย การแก้จมูกครั้งนี้ทำเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับตัวเอง จากจมูกเดิมที่ดูเหมือนเป็นคนเนื้อปลายจมูกเยอะใหญ่ เพราะซิลิโคนอันเก่าสั้น ทำให้ดูเหมือนคนจมูกรั้น พอเราผ่าตัด เราพบว่าเนื้อจมูกคุณเอมมี่สามารถใส่ซิลิโคนที่ยาวได้ ทางเราจึงทำ ปลายจมูกหยดน้ำ ไม่มีชื่อทรงที่ชัดเจน แต่ผมขอเรียกว่า 'ทรงโด่งพุ่ง' เป็นลักษณะเหมือนเลข 7 การเหลาของเราจะเหมือนเลข 7 แล้วตรงส่วนมุมแหลมของเลข 7 จะอยู่ตรงปลายจมูกครับ

ก่อน-หลังการศัลยกรรมจมูกของ เอมมี่ มีความแตกต่างมากน้อยแค่ไหน

1.ความยาวเพิ่มขึ้น 2. ดูเรียวขึ้น โดยส่วนตัวหมอจะชอบทำจมูกให้เรียวที่สุดเท่าที่จะเรียวได้ ของคุณเอมมี่ ถ้าเอาซิลิโคนเก่ามาเปรียบเทียบกับอันใหม่นี้ จะเห็นได้เลยว่าซิลิโคนใหม่เล็กกว่าเดิมเกือบครึ่งเลยครับ

เห็นจมูกแบบนี้ ราคาแพงมากมั๊ยคะ

ของคุณเอมมี่จะเป็นเคสแก้ราคาประมาณ 45,000 บาท ซึ่งถ้าเป็นการทำจมูกครั้งแรกจะราคาไม่สูงเท่านี้ครับ 

ใช้เวลากี่สัปดาห์แผลถึงจะหาย จนใช้ชีวิตปกติได้

สำหรับเคสของ คุณเอมมี่ ต้องบอกว่าแผลหายเร็วมาก คุณเอมมี่มาทำจมูกตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. และมีเวลาแค่ 6 วัน จะต้องออกงาน แต่หลังจากวันที่ทำ 5 วัน เราก็นัดมาแกะแผล ซึ่งหลังจากที่แกะออกเสร็จ จมูกเอมมี่บวมน้อยมาก จนถึงทุกวันนี้เอมมี่ก็ยังไม่ได้ตัดไหมนะครับ ซึ่งเราตัดสินใจเลื่อนการตัดไหมออกไปให้แผลแห้งแล้วค่อยนัดมาตัดไหมอีกครั้ง 

เทรนด์จมูกปีนี้ ที่สาวๆ ฮิตทำมากที่สุด

ส่วนมากคนที่มาหาหมอจะรีเควส ทรงตั๊กแตน ทรงซิลิโคนที่รูปร่างเหมือนตั๊กแตน ทำแล้วจมูกจะดูพุ่งขึ้นและเรียวมีหยอดน้ำภายในตัว ซึ่งทรงนี้ไม่ได้เข้ากับทุกคน ความจริงแล้วการที่เรามารีเควสทรง มันจะทำให้เราไม่ได้จมูกตามที่เราต้องการ คนที่ควรจะเป็นคนเลือกว่าควรจะเอาซิลิโคนแบบไหนควรจะเป็นคุณหมอมากกว่า คนไข้ควรจะเป็นคนเลือกว่าอยากได้จมูกยาวขึ้น พุ่งขึ้น เรียวขึ้น ควรจะบอกแค่ประมาณนี้ เพราะคุณหมอจะเป็นคนเลือกเองว่า จมูกคนไข้เดิมเป็นแบบนี้ ซิลิโคนตัวไหนมาใส่ให้เข้ากับหน้ามากที่สุด  

ศัลยกรรมที่ทำแล้วมีปัญหา?

ส่วนมากจะมีคนไข้มาปรึกษาเรื่องจมูกบางจนมีโอกาสที่จะทะลุ สิ่งที่แรกคุณหมอจะแนะนำให้คนไข้ถอดจมูกออกแล้วพักสัก 3 เดือน เพื่อให้เนื้อเยื้อแข็งแรงขึ้น และค่อยมาแก้ไขกันครับ แต่สำหรับคุณเอมมี่ไม่ได้มีปัญหาพวกนี้เลย ที่อยากทำเพื่อความสวยงาม เพราะจมูกเค้ายังสวยได้อีก

เทรนด์ความนิยมในการทำศัลยกรรม

โดยส่วนหมอเองไม่ชอบให้คนไข้ทำจมูกตามแฟชั่น เพราะอย่างไรแล้วแฟชั่นคือแฟชั่นมันไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะกับเราทุกคน สมมุติว่า เทรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าปีนี้เป็นลายจุด แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบใส่ลายจุดนี้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นผมคิดว่า เราไม่จำเป็นต้องตามเทรนด์ ยิ่งเป็นเรื่องศัลยกรรมยิ่งไม่แนะนำเลยครับ ผมคิดว่าให้เลือกทรงจมูกที่เราชอบดีกว่า เพราะสิ่งนั้นจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นซีซั่นไหน เทรนด์ไหนจะมา เพราะคุณก็คงไม่อยากจะมาเปลี่ยนจมูกๆ ทุกๆ ฤดูอยู่แล้ว

อยากฝากอะไรถึงสาวๆ Sanook! Women ที่คิด ศัลยกรรมจมูก บ้างคะ

ปัจจุบันมีการแข่งขันในการทำศัลยกรรมจมูกสูงมาก คือหมอไม่ใช่หมอคนเดียวที่ทำจมูก สวย หมอแต่ละคนจะมีสไตล์การทำจมูกที่ไม่เหมือนกัน หมอบางท่านอาจจะทำจมูกพุ่งมากจนจมูกเว้าลง หรือหมอบางคนเน้นธรรมชาติ ไม่โด่งมากจนแทบจะมองไม่ออกเลยว่าทำจมูกมา คนไข้จะมาเปรียบเทียบแค่เรื่องของราคาว่าที่ไหนถูกกว่าสูงกว่า แล้วจะเป็นตัวกำนหดความสวยก็อาจจะไม่ใช่ แต่คือเราเลือกก่อนดีกว่าว่า ชอบสไตล์การทำจมูกของคุณหมอคนไหน

ถ้าชอบสไตล์โด่งพุ่งเรียวเล็กก็แวะมาหาเรา เรื่องราคาจะมาเป็นตัวตัดสินไม่ได้ เราขายงานศิลปะ ขายฝีมือและความพอใจของคนไข้มากกว่า หมอคิดว่าซิลิโคนเกือบทุกที่ราคาใกล้เคียงกัน สิ่งสำคัญเราควรจะเลือกคุณหมอที่ไว้ใจได้ และสถานที่ที่ปลอดภัยนั้นแหละเป็นสิ่งสำคัญที่สุดครับ 

ที่มา: http://women.sanook.com/40541/