อยากมีผิวหน้าสวยใส อ่อนวัย ต้องเริ่มจากพฤติกรรมเหล่านี้

อยากมีผิวหน้าสวยใส อ่อนวัย ต้องเริ่มจากพฤติกรรมเหล่านี้

        การแต่งหน้าคือการทำให้ดูสวยขึ้น แต่ความจริงแล้ว การจะมีผิวสวยๆ ได้นั้น ต้องเริ่มจากพฤติกรรมการดูแลนั่นเองค่ะ ถ้าเรามีผิวที่ดี จะแต่งหน้าลุคไหนๆ ยังไงก็สวยใส ออร่ากระจายได้ทั้งนั้น วันนี้ Sanook! Women มีเคล็ดลับการดูแลผิวหน้าด้วยพฤติกรรมง่ายๆ ในตัวเราเองมาฝากกัน จะเริ่มจากตรงไหนนั่นมาดูกันค่ะ

พกกระดาษซับหน้ามัน

       สาวหน้ามันไม่ควรพลาดเลยทีเดียว สำหรับการพกกระดาษซักหน้ามันติดกระเป๋าไว้ซับระหว่างวัน เพราะการที่มีหน้ามันถือเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวนะ

ฉีดน้ำแร่ระหว่างวัน

      ถ้ารู้สึกว่าระหว่างไม่สบายหน้าเลย พกน้ำแร่ขวดพกพาไว้ในกระเป๋าเลยค่ะ เลือกที่มีกันแดดด้วยก็ดีนะ จะได้ฉีดให้สดชื่นแถมกันแดดไปในตัว แต่งหน้าใส

ดื่มน้ำเยอะๆ

        น้ำสิ่งสำคุณที่สุดที่จะช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ไม่แห้ง เพราะเมื่อผิวเราชุ่มชื่น ริ้วรวยก็จะมาช้าลงนะคะสาวๆ

ไม่สัมผัสหน้าบ่อยๆ

        การโดนหน้า สัมผัสหน้า ล้างหน้าบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องดีในการดูแลผิวนะคะ เพราะเมื่อเราโดนผิวบ่อยๆ ก็จะทำให้เกิดสิวได้เช่นเดียวกัน

เช็ดเครื่องสำอางให้สะอาดพร้อมทาครีมบำรุง

        ขั้นตอนนี้สำคัญที่สุด ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวค่ะ เพราะถ้าเราล้างเครื่องสำอางไม่สะอาดก็จะทำให้เกิดสิวอุดตัน และอีกหนึ่งเรื่องสำคัญเราต้องรู้จักผิวตัวเอง เลือกทาครีมบำรุงที่เหมาะสมเพื่อคงสภาพความอ่อนเยาว์ของผิวไว้ให้ได้นานที่สุดค่ะ

       เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมง่ายๆ ก็สามารถทำให้เรามีหน้าที่ใส ไร้สิว กันแล้วสาวๆ รู้แบบนี้อย่ารอช้า มาเริ่มกันเลย

Jossy Berry | Signature Look แต่งหน้าให้สวยปังและติดทนนาน

Jossy Berry | Signature Look แต่งหน้าให้สวยปังและติดทนนาน

สวัสดีค่ะวันนี้จอสก็จะมี VDO สอนแต่งหน้าตัวใหม่มาให้ได้ชมกัน

ลุคนี้เป็นลุคที่จอสชอบแต่งบ่อยที่สุดในช่วงนี้ เรียกได้ว่าเป็น Signature look เลย

ซึ่งการแต่งก็ไม่ได้ยากอะไรมากมาย แต่ออกมาดูสวยและปังสุดๆ

ที่สำคัญคือจอสจะเน้นการแต่งหน้าที่เนียนสวยและติดทนนานทั้งวัน

แต่งออกมาแล้วไม่วอก ไม่ลอย สีผิวไม่ดรอปและไม่เป็นคราบระหว่างวัน

จะเป็นยังไง ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ  แต่งหน้า

5 อาหาร แก้อาการสาววัยทอง

5 อาหาร แก้อาการสาววัยทอง

สนับสนุนเนื้อหา

ผู้หญิงเรา เมื่ออายุเข้าสู่วัยทองก็มีหลายอาการที่ต้องรับมือ ทั้งหงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ ใจสั่น เหนื่อยง่าย ผิวหนังแห้ง กระดูกพรุน และอีกสารพัดอาการ กินฮอร์โมนที่แพทย์ให้ก็ทุเลาอาการได้บ้าง แต่กินต่อเนื่องก็ไม่ดีต่อสุขภาพนัก ดังนั้นอย่าช้าเลยค่ะ มาทำความรู้จักกับ 5 อาหารแก้อาการหลักๆ ของวัยทองกันดีกว่า

1. กลุ่มอาหารแก้อาการประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือมาไม่สม่ำเสมอ
ร่างกายช่วงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ร่างขายมักขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการผลิตเม็ดเลือดแดง จึงจำเป็นต้องกินอาหารที่มีสารสำคัญเหล่านี้

วิตามินเอ มีมากในผักใบเขียว ผลไม้สีเหลือง และปลา (โดยเลือกปลาที่ไขมันต่ำ)

วิตามินบีคอมเพล็กซ์ มีมากในข้าวซ้อมมือ ผัก ผลไม้ และถั่วเหลือง

วิตามินซี มีมากในฝรั่ง ส้ม และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว

ไบโอฟลาโวนอยด์ มีมากในทั้งผักใบเขียวและผลไม้รสเปรี้ยว

เหล็ก ได้จากการกินธัญพืช ถั่ว ผักสีเข้ม และปลา

2. กลุ่มอาหารแก้ภาวะกระดูกพรุน

ปัญหากระดูกพรุน เป็นปัญหาใหญ่ที่ผู้หญิงเข้าสู่วัยทองหลายคนต้องเผชิญ โดยเรามีคำแนะนำเกี่ยวกับสารสำคัญที่ควรได้รับ และแหล่งที่มาของสารอาหารเหล่านั้นค่ะ

วิตามินดี มีมากในอาหารประเภทปลา น้ำมันตับปลา อีกทั้งยังได้จากการรับแดดเช้า

แคลเซียม มีมากในหมู่ธัญพืชอย่างงา ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อย่างเต้าหู้ ฟองเต้าหู้ ปลา และผักใบเขียว อีกทั้งมีมากในโยเกิร์ตต่างๆ

สังกะสี อยู่ในอาหารประเภทปลาทะเล เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม ถั่วลิสง และงา

แมกนีเซียม มีมากในผักใบเขียว ธัญพืช ถั่ว ข้าวซ้อมมือ

3. กลุ่มอาหารแก้อาการร้อนวูบวาบ
อาการนี้กวนใจคุณผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทองส่วนใหญ๋มาก เนื่องจากมักเกิดขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ ทำให้ไม่สบายตัว หงุดหงิดง่าย แต่วันนี้มีคำแนะนำเรื่องสารอาหารที่ควรกินมาฝากค่ะ

วิตามินอี มีมากในน้ำมันตับปลา น้ำมันจากพืชและผลไม้ที่ผ่านกระบวนการสกัดเย็น อย่างน้ำมันเมล็ดชา น้ำมันมะกอก น้ำมันอโวคาโด้ เป็นต้น

ไบโอฟลาโวนอยด์ อย่างที่บอกไปแล้วข้างต้นว่า มีมากในทั้งผักใบเขียวและผลไม้รสเปรี้ยว

4. กลุ่มอาหารแก้อาการช่องคลอดแห้ง

อาการช่องคลอดแห้งเกิดจากการระดับฮอร์โมเอสโตรเจนที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ความชุ่มชื่นและความยืดหยุ่นในช่องคลอดจึงลดลงด้วย อาจเกิดอาการแสบและระคายเคือง รวมถึงมีเลือดออกในช่องคลอดได้จากหลายกรณี ดังนั้นจำเป็นต้องสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายและช่วยเพิ่มควรยืดหยุ่นแก่ช่องคลอด ดังนี้

กรดไลโนเลอิก ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นในร่างกาย มีมากในเมล็ดทานตะวัน เมล็ดลินิน งา ถั่วเหลือง ปลา ผักใบเขียว

วิตามินอี อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า มีมากในน้ำมันตับปลา น้ำมันจากพืชและผลไม้ที่ผ่านกระบวนการสกัดเย็น

5. กลุ่มอาหารแก้นอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน

อาการอารมณ์แปรปรวน และนอนไม่หลับ ส่วนหนึ่งเกิดจากการทำงานของระบบประสาทสมองไม่ราบรื่นนัก ควรเติมสารบำรุงสมองเข้าไปอย่างวิตามินบีคอมเพล็กซ์ และแมกนีเซียม ดังนี้

วิตามินบีคอมเพล็กซ์ ได้แก่ ข้าวซ้อมมือ ผัก ผลไม้ และถั่วเหลือง

แมกนีเซียม มีมากในผักใบเขียว ธัญพืช ถั่ว และข้าวซ้อมมือเช่นกัน

สวยอลังการ! ชุดแต่งงาน 'หญิงแย้ นนทพร' เจ้าสาวร้อยล้าน

สวยอลังการ! ชุดแต่งงาน 'หญิงแย้ นนทพร' เจ้าสาวร้อยล้าน

         หลังจากเข้าพิธีหมั้นไปเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็ถึงเวลาฉลองมงคลสมรสกันแล้วละค่ะ สำหรับ "นนทพร ธีระวัฒนสุข" หรือ "หญิงแย้" เน็ตไอดอลชื่อดัง และแฟนหนุ่ม "นายแพทย์นพรัตน์ รัตนวราห" เจ้าของโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งนพรัตน์ โดยงานฉลองมงคลสมรสของทั้งคู่นั้น จัดขึ้นไปเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยบรรยากาศที่แสนสุดโรแมนติกค่ะ ชุดแต่งงาน

        โดยชุดพิธีชุดแรก หญิงแย้มาในชุดเกาะอกสีขาวสะอาดตา ยาวสุดตระการตา บวกกับการแต่งหน้าโทนหวาน และการถักผมที่แอบประดับแทรกด้วยดอกไม้ เรียกว่าเป็นเจ้าสาวที่สวยราวกับเจ้าหญิงเลยทีเดียว ชุดเจ้าสาว

แฟชั่นคู่รักชิคๆ ใส่แล้วน่ารัก หวานรับวาเลนไทน์

แฟชั่นคู่รักชิคๆ ใส่แล้วน่ารัก หวานรับวาเลนไทน์

        ในช่วงเทศกาลแห่งความรักแบบนี้ หลายๆ คนที่มีคู่ก็คงกำลังวางแพลนกันว่าจะทำอะไรให้ดูพิเศษๆ ดีนะ แต่อีกหนึ่งความพิเศษที่ทุกคนสามารถทำได้นั่นก็คือ การหาชุดคู่มาใส่ด้วยกัน แต่ชุดคู่ในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันเป๊ะๆ นะ Sanook! Women มีไอเดียชุดคู่รักมาฝากสาวๆ กันด้วยค่ะ

1. ใส่เสื้อผ้าแฟชั่นเหมือนกันไปเลย

        มีหลายร้านออกแบบดีไซน์เสื้อผ้าให้คู่รักได้มีชุดเหมือนกันแบบเป๊ะๆ ซึ่งพอใส่เดินด้วยกันแล้วดูน่ารักสุดๆ ไปเลย

2. ใส่เสื้อผ้ามีส่วนใดส่วนหนึ่งเหมือนกัน

       ในบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าเหมือนกันแบบเป๊ะๆ นะ เราอาจเลือกซักส่วนหนึ่งของการออกแบบเช่น ผู้หญิงใส่กระโปรงลายทาง ผู้ชายอาจจะใส่เสื้อลายทาง อะไรทำนองนี้ก็ดูเข้าคู่กันดีค่ะ

3. รองเท้าคู่กัน

       หนึ่งในความน่ารักคือการที่คู่รักใส่รองเท้าเหมือนกัน โทนคล้ายกัน จะรองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าแตะ ก็น่ารัก แฟชั่นเสื้อผ้า

4. ใส่เครื่องประดับเหมือนกัน

      เครื่องประดับไม่ว่าจะเป็นหมวก กำไล กระเป๋า ถ้าถือถ้าใส่คล้ายๆ กันแล้ว ก็ดูน่ารัก หวานสุดๆ ไปเลย

        เห็นไหมคะ เพียงแค่หยิบอะไรบ้างอย่างที่คล้ายกัน ก็ดูน่ารัก หวานหยดจนมดยังต้องเขิลแทนแล้วละค่ะ เราไปดูภาพชุดคู่เพื่อเป็นไอเดียกันเลยดีกว่า ^^

กฏของการแต่งตัว! แบบไหนควรทำ ไม่ควรทำมาดูกัน

กฏของการแต่งตัว! แบบไหนควรทำ ไม่ควรทำมาดูกัน

           หลายครั้งที่เรามักจะเสียความมั่นใจ เพราะกังวลว่า แขนฉันใหญ่จัง ขาก็ใหญ่ หน้าอกก็เล็ก ใส่ชุดนี้ก็ไม่สวย บลาบลาๆ หลากหลายอย่าง วันนี้ Sanook! Women มีกฎของการแต่งตัว ที่จะเป็นข้อคิดให้สาวๆ สนุก และเพลิดเพลินกับการแต่งตัวมากยิ่งขึ้นมาฝากค่ะ แฟชั่นเสื้อผ้า

1. หยุดคิดว่าตัวเองไม่ดี ไม่สวย ไม่เพอร์เฟค

          สิ่งแรกที่ควรหยุดเลย หยุดมองดูเองไม่ดีค่ะ เราลองคิดว่าเราจะแต่งตัวยังไงเพื่อลดจุดบอดตรงนี้ดีนะ จะใส่อะไรดี ไม่ควรมองว่า ฉันอ้วนฉันแต่งตัวสวยไม่ได้ ฉันอย่านู้นฉันเป็นแบบนี้ ลองนำจุดนั้นมาปรับ รับรองค่ะว่าอยากที่จะแต่งตัวแนวไหน ผู้หญิงอย่างเราต้องแต่งได้ค่ะ

2. หยุดเปรียบเทียบสัดส่วน แฟชั่น

          อย่าคิดว่าคนนั้นหุ่นดีจัง คนนี้หุ่นดีจัง อย่านำมาคิดเปรียบเทียบกันค่ะ คนเราต่างมีสัดส่วนที่แตกต่างกัน เราควรมองเขาเป็นแรงบันดาลใจ และเปลี่ยนตัวเองให้คล้ายแต่ไม่ต้องเหมือน จะทำให้เรามีความสุขและมีกำลังใจกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ

3. หยุดช้อปของที่ไม่จำเป็น

         เชื่อได้ว่าผู้หญิงเวลาที่ซื้อของมักจะซื้อเพราะ ตัวนี้ฉันชอบ แต่อาจจะลืมคิดไปว่าเราใส่ออกมาแล้วอาจจะไม่สวยก็ได้นะ ดังนั้น ต้องมองตัวเองให้ออกก่อนเลยค่ะ จากนั้น ก่อนซื้อถ้าได้ลอง ลองก่อนเลย จะได้ซื้อมาแล้วได้ใส่อย่างใจเราต้องการ ^^ 

4. รู้จักกาลเทศะ

          ข้อนี้ก็สำคัญค่ะ เวลาที่เราจะแต่งตัว เราต้องคิดก่อนว่า เราต้องไปสถานที่ที่ไหน งานอะไร เพราะถ้าเราแต่งตัวไม่รู้กาลเทศะอาจจะทำให้คนรอบข้างมองเราแต่งตัวผิด จนเสียความมั่นใจไปเลยทีเดียว

          หลักง่ายๆ เพียงไม่กี่ข้อ ที่จะทำให้สาวๆ อย่างเรามีความมั่นใจ ปรับจุดด้อยเพิ่มจุดเด่น เพียงเท่านี้ก็จะสนุกสนานกับการแต่งตัวในแต่ละวันแล้วละค่ะ

ฝึกมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าค้นหาสไตล์ แก้ไขทุกปัญหาในการแต่งตัว

ฝึกมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าค้นหาสไตล์ แก้ไขทุกปัญหาในการแต่งตัว

ฝึกมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าค้นหาสไตล์ แก้ไขทุกปัญหาในการแต่งตัว

      การเลือกเสื้อผ้าในแต่ละวัน ถือเป็นเรื่องราวสนุกๆ สำหรับผู้หญิงว่าไหมคะ..? แต่เชื่อได้เลยว่าผู้หญิงหลายๆ คนมักจะประสบปัญหาไม่มีความมั่นใจที่จะใส่เสื้อผ้า มีข้อจำกัดในตัวเองว่า ฉันหน้าอกเล็ก ไหล่ตก มีพุง สะโพกใหญ่ ขาใหญ่ บลาบลา ~=,=~ ซึ่งวันนี้ ขวัญ จะมาแนะนำเทคนิคการแต่งตัวเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องของร่างกายเรากันค่ะ แฟชั่นเสื้อผ้า

      เมื่อไม่นานมานี้ ขวัญ ได้มีโอกาสไปเข้าร่วม Work shop : Self-Styling Workshop by Kate Rucharasevee มาค่ะ เลยได้เทคนิคทั้งการแต่งหน้า แต่งตัวมาเพียบเลย เพราะ ขวัญเชื่อว่า ถ้าผู้หญิงเราต้องมีความคิดว่าฉันสวย คิดในแง่บวกไว้ อย่ามองจุดด้อยของร่างกายเราเป็นสิ่งที่ไม่ดี ก็จะทำให้เราเกิดความมั่นใจได้มากขึ้น

     ซึ่งการทำ Work Shop ในครั้งนี้ จะให้ตัวเราเองมองถึงจุดบกพร่องในตัวเราก่อนค่ะ อย่างตัวขวัญเอง ขวัญสูง 160 / น้ำหนัก 45 / ผิวขาวเหลือง ซึ่งสำหรับ ขวัญ เอง ขวัญจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีก้น และอยากเอวเล็กกว่านี้อีกนิด แต่โดยรวมแล้ว ขวัญไม่ค่อยมีปัญหาที่หนักใจเท่าไร ขวัญก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเสื้อผ้าในการเลือกใส่ แต่ก็จะใส่เสื้อผ้าโทนขาว ดำ สีพื้นๆ ไม่พิมลาย เพราะรู้สึกว่ามันนำมาแมทช์กับเครื่องประดับหรือเสื้อผ้าชุดอื่นๆ ได้เยอะดี

และเมื่อสาวๆ รู้จุดที่เราอยากจะแก้ไขแล้ว เรามาดูกันค่ะ ว่าเราควรต้องแต่งตัวแบบไหน

สาวอกเล็ก

    ควรเลือกใส่เสื้อที่จับระบายช่วงหน้าอก เพราะมันจะเป็นการเพิ่มชั้นให้ในส่วนช่วงหน้าอกดูมีเลเยอร์ คอกลม คอปาดใส่ได้ เพราะจะยิ่งทำให้ดูสง่างามและทำให้ดูเหมือนมีหน้าอกมากขึ้น อาจจะเลือกใส่สร้อยเครื่องประดับให้ดูหนาๆ เพื่อให้ท่อนบนเราดูแน่น เพื่อให้มองข้ามเรื่องหน้าอกไป

สาวหน้าอกใหญ่

    สำหรับสาวหน้าอกใหญ่ ควรใส่เสื้อคอวีเพื่อโชว์กระดูกช่วงไหปลาร้า หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อคอเต่า เพื่อให้เปิดอย่าปิดจนทึบ เพราะการที่มีหน้าอกใหญ่นั้นมันมาพร้อมกับความตัน ดังนั้นแล้ว เปิดโปร่ง ก็จะดูสง่างาม

สาวไม่มีเอว

    ตัวช่วยที่ดีที่สุดของสาวที่ไม่มีเอว คือ เข็มขัดเลยค่ะ เป็นไอเท็มที่สาวๆ ควรมีไว้ พอใส่เข็มขัดบริเวณเอวก็จะทำให้ดูหลอกตาได้

สาวสะโพกใหญ่ ต้นขาใหญ่

     ควรหลีกเลี่ยงผ้ายืดช่วงล่าง เลือกผ้าเนื้อกลางๆ ที่ไม่ได้ดูหนาจนเกินไป สามารถใส่กระโปรงสอบได้ อย่าไปเลือกที่รัดและเน้นในส่วนที่จุดบอดของเรา

สาวไม่มีก้น

     สาวที่ไม่มีกันควรจะใส่กางโปรงจับจีบ เพราะจะเน้นเพิ่มวอลลุ่มของเสื้อผ้าในการช่วยหลอกตา เช่น พวกกระโปรง กางเกงที่มีกระเป๋า นั่นเองค่ะ

     และเมื่อเรารู้ข้อบกพร่องของตัวเองแล้ว เราก็จะสนุกกับการแต่งตัวมากขึ้น ลองจัดตู้เสื้อผ้า หาตัวนั้นมาแมทช์กับตัวนี้ ใส่สร้อยคออันนี้ ถือกระเป๋าใบนี้ ก็จะให้เราสามารถเปลี่ยนได้หลายลุคหลายสไตล์แล้วละค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณเกด ฐาดิณี รัชชระเสวี” อดีตบรรณาธิการแฟชั่น และสไตลิสท์มืออาชีพ ที่กำลังมีแบรนด์เสื้อผ้า Mandala

ต้อนรับวาเลนไทน์ ด้วยซอสสตรอว์เบอร์รี่แสนอร่อย ที่ทำเองง่ายๆได้ที่บ้าน ^^

วันวาเลนไทน์

ต้อนรับวาเลนไทน์ ด้วยซอสสตรอว์เบอร์รี่แสนอร่อย ที่ทำเองง่ายๆได้ที่บ้าน ^^

ใกล้ถึงช่วงเทศกาลที่สาวๆ (หรือหนุ่มๆ?) ทุกคนรอคอย 5555 เพราะช่วงนี้ไปไหนก็เห็นแต่คู่รักเดินจูงมือหวานฟรุ้งฟริ้งเต็มไปหมด >///<

แถมรอบตัวก็ยังเต็มไปด้วยสีแดงสดใสของสตรอว์เบอร์รี่ เพราะฤดูนี้มีสตรอว์เบอร์รี่สดขายเยอะมากกกกก จนรู้สึกอยากทำซอสสตรอว์เบอร์รี่ขึ้นมาทันทีเลยค่ะ

สำหรับส่วนผสมก็ไม่มีอะไรมากเลยค่ะ ใช้วัตถุดิบเพียงแค่ 3 อย่าง ก็ได้ซอสสตรอว์เบอร์รี่ที่ทั้งหวาน หอม และอร่อยแล้ว ที่สำคัญคือทำเองกับมือ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมายอะไร เพราะซอสสตรอว์เบอร์รี่มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แถมทำเองยังอร่อยกว่าซื้อแบบขวดสำเร็จรูปอีกด้วย ว่าแล้วก็อย่ารอช้าเลยค่ะ มาลงมือกันดีกว่า มามะๆๆ ><

ส่วนผสม อาหารคนท้อง

สตรอว์เบอร์รี่แช่แข็ง         2        ถ้วย
น้ำตาลทรายขาว             1/3        ถ้วย
(ถ้าชอบหวานให้เพิ่ม 1-2 ช้อนโต๊ะ)
น้ำมะนาว หรือน้ำเลมอน        2-3        ช้อนโต๊ะ

อุปกรณ์

หม้อ / พายไม้ / เครื่องปั่น / ถ้วยตวง / ช้อนตวง

วิธีทำ

1. ใส่สตรอว์เบอร์รี่ (พักไว้ที่อุณหภูมิห้องให้น้ำแข็งละลาย) และน้ำตาลลงในหม้อ
* ถ้าใช้สตรอว์เบอร์รี่สด ให้เพิ่มน้ำเปล่า 1/4 ถ้วย นะคะ ^^

 

2. เติมน้ำมะนาวลงปายยยย

3. คนให้เข้ากันแล้วนำไปตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อน

4. ตั้งไฟประมาณ 7-10 นาที หรือจนสตรอว์เบอร์รี่สุก และเดือดปุดๆ แบบนี้ ><
* ถ้าเป็นสตรอว์เบอร์รี่สดให้เพิ่มเวลาเป็น 12-15 นาที่ หรือจนกว่าสตรอว์เบอร์รี่จะนิ่มสุก

5. ยกลงจากเตา ปั่นให้ละเอียด

6. ทะแล๊นนนนน.. เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วค่าาา
เป็นไงคะง่ายมากๆ เลยใช่ม๊ายยยย

V

V

V

และหลังจากพักให้เย็นสนิท ก็พร้อมไปราดขนมอร่อยๆ ต่อได้เรยยย ><

Tips

• ถ้าชอบซอสที่เนื้อเนียนกว่านี้ ให้กรองผ่านกระชอนอีกครั้งนะคะ
• สามารถปรับรสชาติหวาน หรือเปรี้ยว ได้ตามชอบเลยค่าาา
• หลังจากราดขนมแล้ว ให้เก็บใส่ขวดแก้วหรือถุงพลาสติก มัดให้มิดชิด นำไปแช่เย็น จะเก็บได้นาน 4-5 วัน แต่เพื่อความสดอร่อย ควรทานให้หมดภายในเวลา 1-2 วันจะดีที่สุดค่ะ ><

เอาล่ะค่ะ วันนี้ก็ขอจบวิธีทำซอสสตรอว์เบอร์รี่แบบง๊ายยย ง่าย... ไว้เพียงเท่านี้สำหรับคราวหน้า (ถ้าไม่ผิดพลาดอะไร 555) เราจะพบกันเร็วขึ้นนิดนึง เพราะจิงจะมาพร้อมกับ "ช็อกโกแลตวาเลนไทน์" ใครที่เคยทำแล้วไม่สำเร็จ หรือไม่รู้จะใช้ช็อกโกแลตแบบไหนดี จิงมีคำตอบให้กับทุกคนด้วยค่ะ

ไว้พบกันใหม่นะค้าาาา บะบายยยยย ^^