สัญญาณเตือนควร “หยุดลดน้ำหนัก” ก่อนสุขภาพกายใจจะพังไปมากกว่านี้!!

สัญญาณเตือนควร “หยุดลดน้ำหนัก” ก่อนสุขภาพกายใจจะพังไปมากกว่านี้!!

หากรูปร่างอ้วนหรือมี น้ำหนักพุ่งเกินมาตรฐาน ก็จำเป็นอย่างแน่นอนที่เราจะต้องใส่ใจควบคุมอาหารพร้อมกับออกกำลังกายเพื่อ ให้น้ำหนักตัวลดลง และนี่ก็คือการลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง ซึ่งควรทำอย่างค่อยเป็นไปด้วยจะดีที่สุด
แต่สาวๆ บางคนก็มีวิธีลดน้ำหนักแบบกดดันเกินไป อาจทำให้สุขภาพกาย และใจย่ำแย่ตามมาได้ แถมยังเสี่ยงที่จะทำให้การลดน้ำหนักไม่ประสบความสำเร็จได้อีกด้วย เหล่านี้คือสัญญาญที่เตือนว่าสาวๆ ควรหยุดลดน้ำหนัก ก่อนที่ชีวิตคุณจะยิ่งย่ำแย่ไปมากกว่านี้

สัญญาณเตือนควร “หยุดลดน้ำหนัก” ก่อนสุขภาพกายใจจะพังไปมากกว่านี้!!

เอาแต่ชั่งน้ำหนักบ่อยเกินไป
การลดน้ำหนักที่ดี เราจะต้องลดแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่ต้องเร่งรีบลดแบบทันด่วน เพราะบางทีอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ เช่นเดียวกันกับการชั่งน้ำหนัก หากสาวๆ คนไหนเห็นเครื่องน้ำหนักทีไรแล้วอยากวิ่งเข้าไปชั่งทุกที นั่นบ่งบอกว่าคุณกำลังไม่พึงพอใจกับรูปร่างหรือน้ำหนักของตัวเองอยู่ ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย โดยอาจทำให้มีอารมณ์หงุดหงิดง่าย และยังมีภาวะซึมเศร้าจนนำมาสู่โรคอ้วนได้ในที่สุด

สัญญาณเตือนควร “หยุดลดน้ำหนัก” ก่อนสุขภาพกายใจจะพังไปมากกว่านี้!!

นึกถึงแต่เรื่องจะลดน้ำหนักอยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะทำภารกิจใดในระหว่างวัน หากคุณเอาแต่คิดถึงเรื่องของการลดน้ำหนักอยู่ตลอดเวลา มันจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกกดดันและเป็นการหมกมุ่นกับการลดน้ำหนักมากจนเกินไป ส่งผลเสียต่อพฤติกรรมการกินอาหาร โดยอาจทำให้คุณพยายามงดอาหารหรือกินอาหารแต่เพียงน้อยๆ จนทำให้ร่างกายขาดสารอาหารอย่างที่ไม่ควรจะเป็นได้นั่นเอง

สัญญาณเตือนควร “หยุดลดน้ำหนัก” ก่อนสุขภาพกายใจจะพังไปมากกว่านี้!!

ใส่ใจกินอาหารตามปริมาณแคลอรีมากกว่าสารอาหารที่ควรได้รับ
สาวๆ หลายคนที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก มักใช้วิธีลดน้ำหนักด้วยการนับแคลอรี แม้จริงอยู่ที่มันอาจทำให้น้ำหนักคุณลดลงได้ แต่การเอาแต่ใส่ใจตัวเลขปริมาณแคลอรีมากเกินไปอาจทำให้คุณละเลยสัดส่วนของ ปริมาณอาหาร ทำให้ร่างกายมีโอกาสเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารที่จำเป็นได้ด้วยเช่นกัน นอกจากไม่ทำให้อิ่มท้องแล้ว สารอาหารที่ร่างกายได้รับไม่เพียงพอยังส่งผลทำให้ป่วยง่ายและส่งผลให้หิว บ่อยขึ้น ทั้งยังมีผลต่อระบบเผาผลาญในระยะยาวอีกด้วยนั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้น มันยังทำให้สาวๆ มีสุขภาพที่ทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด สุดท้ายอาจทำให้คุณล้มเลิกการลดน้ำหนักไปในที่สุดก็เป็นได้

สัญญาณเตือนควร “หยุดลดน้ำหนัก” ก่อนสุขภาพกายใจจะพังไปมากกว่านี้!!

มีความสุขกับชีวิตน้อยลง เครียดมากขึ้น
หากคุณเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการพยายามลดน้ำหนักตลอดเวลา ไม่ว่าจะไปงานปาร์ตี้สังสรรค์หรือไปเที่ยวพักผ่อนที่ใดก็ตาม หากเอาแต่เคร่งครัดตั้งกฎในการกินอาหารมากเกินไป มันอาจทำให้คุณพลาดอาหารจานโปรดในสถานที่ใหม่ๆ ที่ควรเป็นจุดชาร์ตพลังชีวิตในยามเหนื่อยหนัก แน่นอนว่าหากสะสมพฤติกรรมนี้ไปนานๆ ความสุขในการใช้ชีวิตจะมีน้อยลง คุณจะรู้สึกไม่พึงพอใจกับสิ่งรอบตัว มองอะไรก็หงุดหงิด ฉุนเฉียว ส่งผลให้เกิดความเครียดและเมื่อเครียดแล้ว ระบบฮอร์โมนต่างๆ ก็รวน อาจทำให้คุณอยากอาหารหวานๆ มากขึ้นและสติแตกกับการลดน้ำหนักมากขึ้นก็เป็นได้
การลดน้ำหนักถือเป็นสิ่งดี หากสาวๆ อยากมีหุ่นสวยผอมเพรียว แต่หุ่นดีทั้งดีก็ต้องมาพร้อมการมีสุขภาพที่ดีและจิตใจแจ่มใสด้วยจะดีมาก ซึ่งหากคุณอยู่ในข่ายที่เราบอกไปล่ะก็ ขอแนะนำให้ว่าปรับพฤติกรรมใหม่เถอะ ไม่งั้นสุขภาพพังแน่นอนค่ะ

เคล็ดลับทำให้ขาเรียวสวยดั่งใจ นุ่งสั้นแค่ไหนก็อวดเรียวขาได้อย่างสุดเริด!

วิธีลดต้นขา เคล็ดลับขาเรียวสวยใครก็อยากมี แต่หากขาของคุณไม่สวยสดใสเหมือนเรียวขาสาวคนอื่นๆ จะทำยังไงดีล่ะ วันนี้เรามีคำตอบมาฝากแล้ว เอาล่ะ อยากขาเรียวสวยดั่งใจ มาทำตามนี้กันเลย!

เคล็ดลับทำให้ขาเรียวสวยดั่งใจ นุ่งสั้นแค่ไหนก็อวดเรียวขาได้อย่างสุดเริด!

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://stylecaster.com/

1.แว็กซ์ให้ขาเรียวเรียบเนียนสวย

ขนขาเป็นส่วนบดบังความสวยของเรียวขาได้เสมอ เพราะฉะนั้น อย่าปล่อยให้ขนขาขึ้นมาเป็นตำหนิผิวสวยอีกเลย แนะนำให้สาวๆ แว็กซ์ขนขาให้เกลี้ยงเกลา เมื่อเรียวขาสวยใสไร้เส้นขนบดบัง การนุ่งกางเกงหรือกระโปรงขาสั้นอวดขาสวยๆ ก็จะเป็นของคุณจนสาวๆ รอบตัวเป็นต้องอิจฉาไปตามๆ กันเลยล่ะ

2.สครับผิวบ้าง

ผิวหนังทุกส่วนของร่างกายคนเราล้วนมีเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วรอผลัดออกอยู่เสมอ ผิวขาของเราก็เช่นเดียวกัน หากเราไม่เคยสครับผิวเลย ผิวก็ย่อมหมองคล้ำดำกร้านแลดูไม่สดใสได้ ดังนั้น แนะนำให้หมั่นสครับผิวขาเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง การสครับผิวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เป็นสาเหตุของผิวคล้ำให้หมดไป ไม่เพียงเท่านั้นนะคะ มันยังช่วยให้ครีมบำรุงผิวสามารถซึมซาบลงสู่ผิวชั้นในได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผิวขาของคุณสวยกระจ่างใสและเนียนนุ่มอย่างใจมากขึ้น

เคล็ดลับทำให้ขาเรียวสวยดั่งใจ นุ่งสั้นแค่ไหนก็อวดเรียวขาได้อย่างสุดเริด!

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://styletips101.com/

3.กำจัดเซลลูไลท์

ขาของสาวๆ ส่วนใหญ่มักมีปัญหาเซลลูไลท์กวนใจอยู่เสมอ หากอยากมีขาเรียวสวยแต่หมดความมั่นใจเพราะเซลลูไลท์เกาะกุมอยู่ล่ะก็ คุณสามารถขจัดออกได้ง่ายๆ ด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้ที่ให้ไฟเบอร์สูง ดื่มน้ำสะอาดมากๆ และออกกำลังกายเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อช่วยสลายไขมันเซลลูไลท์พร้อมๆ กัน นอกจากนี้แล้ว การหมั่นสครับผิวในส่วนที่มีเซลลูไลท์เป็นประจำก็จะช่วยกระตุ้นการสลายไขมัน ทำให้เรียวขาของคุณสวยเพรียวดั่งใจได้ง่ายขึ้น

4.บำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์อย่างเต็มที่

แม้ขาของคุณจะเรียวสวยไร้เซลลูไลท์ก็ตาม แต่หากสภาพผิวขาแห้งกร้าน สัมผัสได้ถึงริ้วรอยแห้งแตกล่ะก็ งานนี้ไม่สวยอย่างที่คิดแน่นอน แนะนำให้บำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์อย่างเต็มที่หลังจากอาบน้ำเช้า – เย็น ทำเป็นประจำทุกวัน ผิวขาของสาวๆ จะเนียนนุ่มชุ่มชื้น เปล่งประกายถึงสภาพผิวที่สวยเนียนใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ

เคล็ดลับทำให้ขาเรียวสวยดั่งใจ นุ่งสั้นแค่ไหนก็อวดเรียวขาได้อย่างสุดเริด!

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.refinery29.com/

5.ทาด้วยน้ำมันมะกอก

สำหรับสาวๆ คนไหนที่มีปัญหาผิวแห้งแตกมากเป็นพิเศษ แม้แต่การโบกด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ก็ยังเอาไม่อยู่ ถ้าเช่นนั้น แนะนำให้ใช้น้ำมันมะกอกมาทาผิวขาให้ทั่วพร้อมกับนวดเบาๆ จนน้ำมันซึมซาบลงสู่ผิว แนะนำให้ทำเช่นนี้ก่อนนอนเป็นประจำ อาจจะทำทุกคืนแล้วหาผ้ามาพันเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันเลอะที่นอน ตื่นเช้ามาคุณจะพบว่าผิวขาของคุณเนียนนุ่มชุ่มชื้นอย่างมากสุดๆ จนคุณต้องหลงรักผิวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเลยทีเดียว

6.ทาครีมกันแดดอยู่เสมอ

ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง ใช่เพียงแต่ผิวหน้าและผิวกายส่วนอื่นๆ เท่านั้นที่เราจะต้องทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันรังสี UV ไม่ให้ทำลายผิวจนหมองคล้ำ เพราะผิวเรียวขาก็ต้องการการปกป้องจากแสงแดดเช่นกัน ดังนั้น แนะนำให้ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้งจะดีที่สุด คราวนี้เรียวขาสวยใสเปล่งประกายออร่าอย่างไม่มีหมองคล้ำแน่นอน

และนี่ก็คือวิธีทำให้ขาเรียวสวยสดใส ไร้ปัญหาตำหนิกวนใจอีกต่อไป แม้แต่ขาใหญ่ที่เต็มไปด้วยเซลลูไลท์ หรือร่องรอยตำหนิด่างดำหรือแม้แต่สภาพผิวขาที่แห้งสัมผัสได้ถึงความสากกร้านจากนี้หมดไปแน่นอน ถ้าเพียงสาวๆ หมั่นทำตามนี้เป็นประจำทุกวัน

อัพเดตสินค้า โปรโมชั่น IG : @pao_cosmetic

รู้ไว้ก่อนตัดสินใจ! โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ควรเลือกยังไง

 รู้ไว้ก่อนตัดสินใจ! โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ควรเลือกยังไง

            ปัจจุบันนี้เชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนต้องเคยได้ยินการแก้ไข ปรับตกแต่งรูปหน้าแบบไม่ต้องเจ็บตัวทำศัลยกรรม ด้วย 2 วิธีการรักษา โบท็อกซ์ (ฺBotox) และ ฟิลเลอร์ (Filler) ซึ่งถ้าอย่างที่เราเข้าใจกันง่าย โบท็อกซ์ก็คือ ฉีดเพื่อช่วยลดขนาด ลดริ้วรอยต่างๆ นานา ส่วนฟิลเลอร์คือ ตัวที่จะเข้าไปเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย หรืออยากได้เพิ่ม แต่! ถ้าเราไม่ศึกษาทำความเข้าใจให้ถูกต้อง 2 สิ่งนี้ก็อันตรายนะ

           Sanook! Women ได้โอกาสเลยแอบไปขอความรู้จากนายแพทย์ วรพล สุขีวัฒนา ผู้ก่อตั้ง DOCTOR TONY Clinic เกี่ยวกับการเลือกฉีด เลือกใช้ ข้อมูลคราวๆ เพื่อสาวๆ ที่กำลังคิดจะไปฉีดได้รู้และเช็คให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจกันค่ะ แต่งหน้า

           เริ่มกันที่เรื่องของการฉีดโบท็อกซ์กันก่อนเลยค่ะ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ของคนไข้ที่มาพบคุณหมอ คือ ไปฉีดมาแล้วเกิดอาการไหลย้อย บวม ติดเชื้อ เป็นพังผืด เพราะตรวจพบ Hyaluronic acid ที่เป็นของปลอมผสมอยู่ ทำให้ฉีดไปแล้วเกิดปัญหาตามมา

          สาวๆ คงเกิดคำถามว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าที่เราจะฉีดของจริงหรือของปลอม คุณหมอได้แนะนำว่า ควรที่จะขอดูกล่อง และใบอนุญาต ขอเลขที่อย.ไปเช็ค นอกจากนั่นต้องดูประสบการณ์ของคุณหมอและความน่าเชื่อถือของคลินิกด้วย ซึ่งยี่ห้อที่ได้รับการอนุญาตและปลอดภัย โดยปกติแล้วฟิลเลอร์นั่นก็จะอยู่ได้นานถึง 2 ปี แล้วแต่ยี่ห้อไป

          ต่อด้วยโบท็อกซ์กันบ้างค่ะ คุณหมอเราให้เราฟังว่า ความจริงแล้วเจ้าโบท็อกซ์ เขามีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า โบนา โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) ซึ่งในอเมริกายี่ห้อที่ได้รับการอนุญาตแล้วจะมีด้วยกัน 3 ยี่ห้อ แต่ในไทยที่ได้การยอมรับและอนุญาตแล้วในตอนนี้มี 2 ตัว คือ Botox Onabotulinum toxinA และ Dysport Abobotulinum toxinA

            ดังนั้นแล้ว ตัวยาท็อกซินที่ ใช้ฉีดเข้าไปในใบหน้าจะต้องมีความปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งสาวๆ ก็กำลังอาจจะงงว่า มันจะแตกต่างกันยังไง ของเมกา หรือ ของเกาหลี ฉีดมาก็ลดริ้วรอย ลดกรามได้เหมือนกัน คุณหมอบอกเราว่าความจริงแล้ว มันสามารถลดได้เหมือนกันจริงค่ะ แต่! ถ้าฉีดของที่ไม่มีคุณภาพ ฉีดครั้ง สองครั้งอาจจะลงปกติ แต่เมื่อไรที่ฉีดไม่ลงแล้วจะเปลี่ยนมาฉีดของที่ได้รับอย. ได้คุณภาพ สุดท้ายก็ไม่ลงอยู่ดี ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาพัก 2 -3 ปี

             ทั้งนี้เกิดมาจากส่วนผสมที่ต่างกัน นั่นคือความบริสุทธิ์ของตัวโปรตีน ท็อกซินตัว ที่ปลอดภัยคือต้องมีโปรตีนน้อยที่สุด ซึ่งถ้ามีโปรตีนอยู่ในปริมาณที่เยอะจะทำให้เกิดอาการดื้อยา! และอีกหนึ่งเรื่องคือการกระจายตัวของยา

          รู้แบบนี้แล้ว สาวๆ ที่กำลังจะไปฉีดคงต้องศึกษา หาข้อมูลคลินิกและฝีมือคุณหมอที่จะไปทำให้มากขึ้นกว่าเดิมแล้วนะคะ จริงๆ แล้วการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์นั่น ไม่ใช่เรื่องผิด หรืออันตรายใดๆ เพียงแค่เราต้องเลือกให้ดี มีการรับรอง ได้รับ อย.อย่างถูกต้องและฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ แน่นอนค่ะว่า เราจะมีใบหน้าที่เป๊ะ สมใจ และปลอดภัยจริงๆ ค่ะ

รองพื้นในดวงใจ : Artistry Youth Xtend

รองพื้นในดวงใจ : Artistry Youth Xtend

แต่งหน้าใสๆ
พูดถึงรองพื้น เชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคนคงจะต้องมีกันอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าสองตัวแน่ๆ

สำหรับตูนก็มีครอบครองอยู่หลายตัวค่ะ ทยอยรีวิวไปบ้างแล้ว อันไหนที่ชอบก็จะเห็นว่าใช้บ่อยใช้เป็นประจำมากๆ

บล๊อกนี้ก็จะมารีวิวรองพื้นในดวงใจของตูนเช่นเดิมค่ะ ซึ่งปีที่แล้วนั้นที่ตูนพูดถึงบ่อยและหยิบมาใช้บ่อยสุด จะเป็นตัวนี้ค่ะ

ARTISTRY Youth Xtend Lifting Smoothing Foundation อาร์ทิสทรี ยูธ เอ็กซ์เทนด์ ลิฟท์ติ้ง สมูธติ้ง ฟาวน์เดชั่น

รองพื้นที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เปล่งประกาย ทั้งยังบำรุงผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย ช่วยลดริ้วรอยให้ดูจางลง ผิวดูกระชับ พร้อมกันแดด SPF 20 UVA/UVB PA+++

ประสิทธิภาพของรองพื้นตามที่แบรนด์แจ้งมาจะมีดังนี้ค่ะ

• ช่วยให้ผิวกระชับเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
• มีเทคโนโลยีสะท้อนแสง ช่วยกระจายมิติแสงให้ริ้วรอยดูจางลง คืนความอ่อนเยาว์ ให้ผิวเปล่งประกาย
• ให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียน
• ปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากรังสี UV
• ปกปิดได้ปานกลางถึงมาก
• เหมาะกับผิวทุกประเภท ปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่าย
  

ลักษณะขวดหรูหราค่ะ เป็นฝาปั๊ม สามารถล๊อคหัวปั๊มได้ด้วย แค่บิดล๊อกเองค่ะ

สำหรับเฉดสีที่ให้เลือกนั้น มีเยอะมากค่ะ เป็นรองพื้นที่มีทุกเฉดสีจริงๆ

ส่วนตัวตูนใช้สี L2W1 Sand ค่ะ ตูนเป็นคนผิวกลางๆค่ะ

เวลาใช้ก็ปั๊มทีละน้อยๆ แล้วค่อยเกลี่ยให้ซึมเข้าผิว ลักษณะจะเป็นเนื้อครีม เกลี่ยค่อนข้างง่าย ไม่เป็นคราบค่ะ จะเกลี่ยด้วยมือ แปรง ฟองน้ำ ก็ให้ผลเหมือนกันค่ะ เลือกเอาที่ถนัดเลย

ผลลัพธ์หลังการใช้คือ ชอบมากกกกกกกก เพราะช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน ทาแล้วผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ปกติแล้วรองพื้นที่ให้การปกปิดดีทาแล้วจะรู้สึกแห้ง แต่ตัวนี้ไม่เลยค่า ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยค่ะ เพราะเค้าผสมกันแดดน้อย โดนแฟลชสาดแล้วช่วยกระจายแสง ไม่ลอยล่องค่ะ 555 ระหว่างวันหน้าจะวาวๆหน่อย ปลื้มมมม เนียนมากกกกกก ปกปิดได้ดี ไม่เป็นคราบ ส่วนตัวลองใช้แล้วพบว่าเหงื่อยิ่งออกหน้ายิ่งวาว เลิฟเลยอ่าาา <3 <3 <3 สำหรับใครที่ต้องการรองพื้นที่ให้การปกปิดดี แต่ยังคงผิวชุ่มฉ่ำ และบำรุงผิวไปในตัว ตูนแนะนำตัวนี้เลยค่า

อันนี้เป็นตัวอย่างการแต่งหน้าที่ตูนใช้รองพื้นตัวนี้ค่า สังเกตกันชัดๆเลยว่าหน้าเด้งแค่ไหน :D

รองพื้นตัวนี้ขนาด 30ml. ราคาจะอยู่ที่ 1,945 บาท อาจจุสูงไปนิดแต่ถือว่าคุ้มค่ามากๆค่ะ นี่ปีที่แล้วใช้มาทั้งปี ยังเหลือเกินครึ่งขวดอยู่เลยค่ะ คุ้มกับการลงทุนฮ

รีวิวการล้างเครื่องสำอาง พิชิตสิวอุดตัน แบบฉบับเพื่อนเจ้าสาวค่ะ

รีวิวการล้างเครื่องสำอาง พิชิตสิวอุดตัน แบบฉบับเพื่อนเจ้าสาวค่ะ

ช่วงนี้ฤกษ์ดี ไปไหนก็มีแต่คนแต่งงานกัน เราก็คนหนึ่งหล่ะค่ะ ที่รอบกายมีแต่เพื่อนๆแต่งงาน แต่ไหนเราไม่ได้แต่งซักที….(เห้อ สงสัยเจ้าบ่าวยังไม่เกิด)

ต้องบอกก่อนเราเป็นคนที่ต้องแต่งหน้าทุกวันแต่มากน้อยนี่แล้วแต่เวลากับความขี้เกียจของเรา ส่วนสำหรับเรื่องสิวนั้นทั้งสิวเม็ดสิวผดสิวอุดตันก็จะมาบ้างไม่ถึงกับเยอะแต่แบบถ้าวันไหนแต่งหน้าเยอะแล้วล้างหน้าไม่สะอาดน่ะหรอ...มันมาเต็มมมม โดยเฉพาะงานแต่ง และได้รับเชิญให้ไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวทั้งทีเลยต้องจัดเต็มกันหน่อยทั้งเสื้อผ้าหน้าผมก็ต้องเป๊ะแต่ยังไงคงสู้เจ้าสาวไม่ได้หรอกเนอะ แต่พอจบงานเนี่ยถ้าล้างหรือเช็ดทำความสะอาดหน้าไม่สะอาด สิวคงมาแน่ๆ แต่ไม่ใช่แค่นั้น เราต้องดูแลผิวหน้าของตัวเราเองด้วย เราเลยต้องมองหา ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลทาความสะอาดผิวหน้าเราแบบดีหน่อยที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และต้องช่วยดูแลชั้นผิวของใบหน้าเราด้วยนะคะ

ช่วงนี้พอดิบพอดีเลยเนื่องจากของหลายๆอย่างเราหมดพอดีและมีจังหวะเลยได้แวะห้างพอดีโอกาสได้ไปซื้อของช้อปปิ้งเลย  จะพาไปซื้อผลิตภัณฑ์หลายๆอย่างที่เราใช้ทำความสะอาดใบหน้าเราจึงไปเจอคลีนซิ่งอันนึงนั่นคือ EucerinCleansing water ซึ่งปกติแล้วเราเป็นแฟนยูเซอรีนอยู่แล้วใช้ครีมของเค้ามาตลอดไม่เคยแพ้มีคลีนซิ่งตัวใหม่ออกมาเลยต้องลองสักหน่อยซึ่งเห็นว่าปรับสูตรใหม่ ช่วยฟื้นฟูทาความสะอาดง่าย ลดการระคายใต้ชั้นผิว ที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดสิวด้วย

อันนี้คือที่เราซื้อมาเจ้าตัวนี้เราได้ยินมาว่าเป็นเทคโนโลยีล่าสุดMicro-micellarจากยูเซอรินที่ออกแบบพิเศษสามารถขจัดคราบเครื่องสำอางและครีมกันแดดแม้สูตรน้ำพร้อมสารแอมโฟ-เทนไซด์ช่วยสลายสิ่งอุดตันฝังลึกต้นตอของสิวถึงร่องรูขุมขนให้ดูกระชับลดการเกิดสิวซ้าช่วยให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใสลดการระคายใต้ชั้นผิวและยังมีตัวArginine ที่เป็นตัวฟื้นฟูผิวของเราอีกด้วยโดยเจ้าตัวนี้ก็คือEUCERIN DERMOPURIFYER 3 IN 1ACNE & MAKE-UP CLEANSING WATER นั่นเอง

ต่อไปเราก็อยากจะแชร์วิธีทำความสะอาดหน้าของเราด้วยคลีนซิ่งตัวนี้บ้างเริ่มกันเลย

1. เอาสำลีสามแผ่นมาใส่คลีนซิ่งลงไปแล้วบิดสำลีให้ซึมทั่วทั้งหมด
2. นำมาแปะที่ตาทั้งสองข้างและปากทิ้งไว้สัก3 วินาที
3. จากนั้นเรานำอีกด้านของที่ทำความสะอาดตาและปากมาเริ่มเช็ดจากด้านในไปด้านนอกไม่ย้อนค่ะ
4. ใช้ทีละสองแผ่นมือละแผ่นค่ะเริ่มจากหน้าผากคิ้วจมูกแก้มไล่มาเรื่อยๆตากับปากนี่เช็ดเบาๆพอ
5. ส่วนตรงคางเราจะโกยขึ้นค่ะจากในไปนอกเช่นกัน
6. รอบเดียวคงยังไม่สะอาดเราก็เอาสำลีใส่คลีนซิ่งคราวนี้ทีละสองแผ่นแล้วทาแบบเดิมเลย
7. กลัวไม่สะอาดก็ทาอีกรอบก็ได้แล้วก็ไปล้างหน้าตามปกติเลยค่ะ

หลังจากล้างหน้าเรียบร้อยก็อยากจะทดสอบประสิทธิภาพแต่ละอย่างที่เราใช้อยู่มาเปรียบให้ดูว่ามันมีความแตกต่างจิงๆและรวดเร็วมากๆด้วยบ้าง.... มาดูกันเลย

รักษาสิว

เรามีตัวอย่างมาเปรียบความรวดเร็วให้ดูตามกันไปเลยค่ะ มาทดสอบกันเลยดีกว่า



จากการทดสอบจะเห็นว่า
ช่องที่1 นั่นก็คือเจ้ายูเซอรินตัวใหม่นี่แหละเช็ดเพียงรอบที่4 สำลีก็สะอาดแล้วให้ชนะเลิศเลย
ช่องที่2 โคเซ่ซึ่งเป็นแบบครีมเราให้อันดับที่สองเพราะต้องเช็ตรอบที่5 ถึงจะสะอาด
ช่องที่3 ก็คือBifesta ตัวนี้ราคาไม่สูงแต่ว่าเมื่อทดสอบแล้วต้องเช็ดถึงรอบที่6กันเลยเมื่อก่อนเราก็ว่าตัวนี้ดีนะ
แต่วันนี้ได้ลองเจ้าตัวใหม่นี่ก็จะขอเป็นแฟนยูเซอรินต่อไปละกันตัวนี้ใช้ปริมาณไม่มากเท่าตัวอื่นก็ซึมถั่วสาลีแล้วจริงๆ

สุดท้าย....ลองคิดตามกันนะผิวหน้าที่ถูกรบกวนบ่อยจากแต่งหน้าทุกวันก็ทำให้เกิดการะคายตลอดๆผิวก็เหมือนโดนทำร้ายตลอดทุกวันซึ่งเป็นภัยใกล้ตัวที่ทาให้เกิดสิวขึ้นโดยไม่รู้ตัวเราก็ควรจะเลือกคลีนซิ่งที่ดีที่สุดสาหรับหน้าเราเช่นกันทำให้ไม่ว่าเราจะไปงานไหนที่ต้องแต่งหน้าหนักๆเราก็มั่นใจได้เลย

สรุปว่า....หลังจากได้ลองคลีนซิ่งตัวนี้แล้วเรารู้สึกว่าเจ้าตัวนี้ทำให้หน้าเราสะอาดไม่แห้งตึงไม่แพ้ทำความสะอาดได้รวดเร็วและยังมีความรู้สึกว่าสิวไม่ขึ้นส่วนสิวผดเล็กๆที่มีก็ลดน้อยลงด้วยและเมื่อเทียบปริมาณที่ใช้กับราคาก็ถือว่าสมเหตุสมผลกันค่ะบอกก่อนเลยนะคะว่า ความเห็นส่วนตัวของเรา ถ้าใครชอบอย่างอื่นแนะนำเราได้น้
า

อยากมีผิวหน้าสวยใส อ่อนวัย ต้องเริ่มจากพฤติกรรมเหล่านี้

อยากมีผิวหน้าสวยใส อ่อนวัย ต้องเริ่มจากพฤติกรรมเหล่านี้

        การแต่งหน้าคือการทำให้ดูสวยขึ้น แต่ความจริงแล้ว การจะมีผิวสวยๆ ได้นั้น ต้องเริ่มจากพฤติกรรมการดูแลนั่นเองค่ะ ถ้าเรามีผิวที่ดี จะแต่งหน้าลุคไหนๆ ยังไงก็สวยใส ออร่ากระจายได้ทั้งนั้น วันนี้ Sanook! Women มีเคล็ดลับการดูแลผิวหน้าด้วยพฤติกรรมง่ายๆ ในตัวเราเองมาฝากกัน จะเริ่มจากตรงไหนนั่นมาดูกันค่ะ

พกกระดาษซับหน้ามัน

       สาวหน้ามันไม่ควรพลาดเลยทีเดียว สำหรับการพกกระดาษซักหน้ามันติดกระเป๋าไว้ซับระหว่างวัน เพราะการที่มีหน้ามันถือเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวนะ

ฉีดน้ำแร่ระหว่างวัน

      ถ้ารู้สึกว่าระหว่างไม่สบายหน้าเลย พกน้ำแร่ขวดพกพาไว้ในกระเป๋าเลยค่ะ เลือกที่มีกันแดดด้วยก็ดีนะ จะได้ฉีดให้สดชื่นแถมกันแดดไปในตัว แต่งหน้าใส

ดื่มน้ำเยอะๆ

        น้ำสิ่งสำคุณที่สุดที่จะช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ไม่แห้ง เพราะเมื่อผิวเราชุ่มชื่น ริ้วรวยก็จะมาช้าลงนะคะสาวๆ

ไม่สัมผัสหน้าบ่อยๆ

        การโดนหน้า สัมผัสหน้า ล้างหน้าบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องดีในการดูแลผิวนะคะ เพราะเมื่อเราโดนผิวบ่อยๆ ก็จะทำให้เกิดสิวได้เช่นเดียวกัน

เช็ดเครื่องสำอางให้สะอาดพร้อมทาครีมบำรุง

        ขั้นตอนนี้สำคัญที่สุด ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวค่ะ เพราะถ้าเราล้างเครื่องสำอางไม่สะอาดก็จะทำให้เกิดสิวอุดตัน และอีกหนึ่งเรื่องสำคัญเราต้องรู้จักผิวตัวเอง เลือกทาครีมบำรุงที่เหมาะสมเพื่อคงสภาพความอ่อนเยาว์ของผิวไว้ให้ได้นานที่สุดค่ะ

       เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมง่ายๆ ก็สามารถทำให้เรามีหน้าที่ใส ไร้สิว กันแล้วสาวๆ รู้แบบนี้อย่ารอช้า มาเริ่มกันเลย

Jossy Berry | Signature Look แต่งหน้าให้สวยปังและติดทนนาน

Jossy Berry | Signature Look แต่งหน้าให้สวยปังและติดทนนาน

สวัสดีค่ะวันนี้จอสก็จะมี VDO สอนแต่งหน้าตัวใหม่มาให้ได้ชมกัน

ลุคนี้เป็นลุคที่จอสชอบแต่งบ่อยที่สุดในช่วงนี้ เรียกได้ว่าเป็น Signature look เลย

ซึ่งการแต่งก็ไม่ได้ยากอะไรมากมาย แต่ออกมาดูสวยและปังสุดๆ

ที่สำคัญคือจอสจะเน้นการแต่งหน้าที่เนียนสวยและติดทนนานทั้งวัน

แต่งออกมาแล้วไม่วอก ไม่ลอย สีผิวไม่ดรอปและไม่เป็นคราบระหว่างวัน

จะเป็นยังไง ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ  แต่งหน้า